[responsivevoice_button voice=”Thai Female” buttontext=”คลิ๊กเพื่อฟังเนื้อหา”]มีใครเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่าเราดูดวงไปทำไม เราจะอยากรู้อนาคตไปทำไม สำหรับตัวเองเป็นเรื่องที่สงสัยมาโดยตลอด ส่วนตัวแล้วเรียกว่าเป็นคนที่เฉยๆกับการดูดวง คือจะอยู่ในกลุ่มที่ตามอ่านคำทำนายที่หาได้ตามนิตยสาร บทความออนไลน์ หรือ content ในเพจต่างๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะเวลาอ่านเยอะๆก็จะเริ่มงงๆเพราะก็มีตีกันเองอยู่บ่อยครั้ง
เรื่องของเรื่องคือมีรุ่นน้องที่ทำงานคนนึงสนใจแล้วก็ศึกษาศาสตร์การทำนายด้วยความตั้งใจจริงน่าจะเป็นเวลาประมาณสองถึงสามปีแล้วจนปัจจุบันนี้เปิดเพจ Indie Tarot รับทำนายด้วยการอ่านไพ่ Tarot พร้อมกับศึกษาหาความรู้เรื่องของการทำนายอย่างสม่ำเสมอ เราเองก็เห็นกิจกรรมอยู่ตลอด เพื่อนๆที่เคยขอให้น้องเค้าทำนายไพ่ให้ก็บอกว่าแม่นมาก จนเราเองจากที่เฉยๆก็เริ่มสนใจ เพราะหนึ่งเราชื่อว่าน้องเรามีความสามารถทางด้านการทำนายจริง สองเราเคยฟังน้องเราให้คำปรึกษากับเพื่อนๆที่มาขอให้ดูไพ่ให้ซึ่งสรุปความได้ดีมาก และสามเนื่องจากว่ารู้จักกันและเคยทำงานด้วยกันมาก่อนจึงมั่นใจว่าหากมีคำเตือนอะไรจากไพ่เค้ากล้าที่จะบอกเราตรงๆ
วันนี้สบโอกาสจังหวะดีน้องเค้ามีเวลาเหลือ เพราะปรกติงานยุ่งมาก และคิวเปิดไพ่ทำนายเยอะมาก (ของเค้าดีจริง) ในขณะที่กำลังเปิดไพ่ดูดวงให้กับรุ่นพี่อีกคนที่เราเองก็รู้จัก ก็เลยขอไปนั่งต่อคิวขอเปิดไพ่ดูดวงปีนี้แบบจริงๆจังๆ (หมายถึงมีการวางค่าครูเป็นเรื่องเป็นราวซึ่งเราเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องอะไรเท่าไหร่ เพราะไม่เคยคิดจะเสียเงินดูดวงเลย)
หลังจากที่แตะไพ่และอธิฐาน ทุกอย่างก็เริ่มต้นจากคำว่า “พี่อยากถามเรื่องอะไร” ก็ตอบไปตรงๆว่าเรื่องงาน และเรื่องคู่ครอง เพราะสงสัยอยู่จริงๆว่าจะยังไงดี มันมีแผน มีทาง มีเหตุการณ์ทางแยกมากมาย เราถามไพ่ แล้วไพ่ที่ถูกหยิบออกมาคือคำตอบ สิ่งที่แปลกคือไพ่ที่ออกมา ตรงกับสิ่งที่กำลังคิด ไพ่ที่ตามออกมา ตรงกับสิ่งที่กำลังสับสน และไพ่ใบต่อไปคือ “คำแนะนำ” ไม่ใช่การ “ตัดสิน” ว่าอะไรดีหรือไม่ดี อะไรต้องทำหรือไม่ทำ และ คำแนะนำนั้น “ไม่ใช่อนาคต” แต่เป็น “ผลสืบเนื่องจากไพ่สถานการณ์ปัจจุบัน”
จบจากเรื่องงานก็ต่อไปเรื่องคู่ครองซึ่งขั้นตอนการเปิดไพ่ก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะ “เรากำลังรู้สึกแบบนี้” “เรากำลังคิดแบบนี้” ไพ่ที่เปิดตามออกมาจึง “สะท้อนผลลัพธ์” ที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีก ก็คุยเล่นไปตามประสาที่นานๆเจอกันซะที เพราะต่างคนก็ต่างยุ่งกับหน้าที่หลักของตัวเอง สงสัยอะไรก็ถามไพ่ แล้วก็เปิดออกมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เรารู้จริตนิสัยของตัวเองอยู่แล้ว ว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับอะไร ถ้าไปฝืนในสิ่งที่ทำแล้วไม่มีความสุข ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ดี
หลังจากแยกย้ายกันก็พาตัวเองเดินเล่นเพลินๆอีกซักพัก แล้วก็ตอบกับตัวเองไปว่า จริงๆแล้วการดูดวง ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพียงแต่ว่าเราต้องเข้าใจตัวเองก่อนแล้วในระดับหนึ่ง คำทำนายต่างๆเป็นเหมือนตัวช่วยเผื่อว่าเราลืมมองในบางมุม คอยทักเหตุความน่าจะเป็นต่างๆให้ตัวเราเองเห็นได้กว้างขึ้น รอบคอบยิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับเคสส่วนตัวนี้ ทำให้ความไม่ชัดเจนต่างๆในความคิด และแผนชีวิตในช่วงปีนี้ มันชัดเจนขึ้นมาได้มาก ซึ่งจริงๆก็เหมือนกับสิ่งที่น้องเค้าเคยบอกเราไว้ในช่วงแรกที่เร่ิมเรียนศาสตร์การทำนายว่า ไพ่เค้าไม่ได้เป็นป้ายบอกนะว่าเราต้องเดินไปทางไหน เป็นเหมือนแสงไฟที่ทำให้เราเห็นทางชัดขึ้นเท่านั้น ส่วนการเลือกหนทางสุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเราเอง “..กฏแห่งกรรม ยังคงทำงานของมันไปตามธรรมชาติของมัน..”