แวะไปร่วมงานประชุมสามัญประจำปีของสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ( Thai Webmaster Association) มาครับแล้วก็ตั้งใจจะอยู่ร่วมงานสัมมนา webpresso ด้วย เพราะหัวข้อน่าสนใจมาก “คนทำเว็บพบคนโฆษณา ทำเว็บอย่างไรให้ได้เงิน” ตั้งใจเข้าร่วมงานเพราะคำว่า “เว็บ” กับคำว่า “เงิน” โดยแท้ (ฮา)
ในงานมีกูรูและเซเลปมากมายครับ ทั้งจากฝั่งของเจ้าของเว็บไซต์เอง และจากฝั่งของนักโฆษณา มาถึงตรงนี้คำถามก็คือว่านักโฆษณาเกี่ยวอะไรกับคนทำเว็บ คำตอบคือ มูลค่าของเงินโฆษณาผ่านช่องทาง digital ประมาณอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทครับ และสื่อที่นักโฆษณาออนไลน์นิยมใช้ที่สุดก็คือการโฆษณาผ่าน website banner นี่แหละครับ
หากเว็บไซต์มี traffic สูงๆ หรือมีเนื้อหาคุณภาพที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้ นักโฆษณาเองก็จะยินดีที่จะจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ของเรา
นักโฆษณาเค้าเลือกเว็บไซต์ที่จะไปลงโฆษณายังไง
- มองที่ traffic – เว็บไซต์นี้มีผู้เยี่ยมชมเท่าไหร่ มีพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ยังไง มีการกดโฆษณาเพื่อเข้าไปดูข้อมูลต่อ หรือมีการแสดงผลที่ส่งเสริมให้ interact กับโฆษณายังไง
- มองที่เนื้อหา – เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร คุณภาพของเนื้อหา ความน่าเชื่อถือของข้อมูล
- มองที่ความน่าเชื่อถือ – ในกรณีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการรีวิว หรือการเล่าเรื่องประสบการณ์ส่วนบุคคล ว่ามีผลกระทบต่อความคาดหวังเพื่อการโน้มน้าวกลุ่มลูกเป้าหมายของงานโฆษณาเป็นอย่างไร
ในหลักทั้งสามนี้นักโฆษณาเองให้มูลค่ากับความสามารถในการโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งจะส่งผลมาถึงคนทำเว็บในส่วนของการสร้างเนื้อหาเพื่อรีวิวสินค้าหรือบริการนั้นๆ เพราะเนื้อหาและ traffic ยังพอใช้เงินซื้อได้ แต่ทัศนคติที่ดีกับแบรนด์สินค้านั้นมีมูลค่ามากมาย และไม่สามารถใช้เงินซื้อได้ครับ
กลับมาในฝั่งของคนทำเว็บ โดยเฉพาะเว็บไซต์เล็กๆ ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่หรือ traffic มากมายสำหรับขายพื้นที่โฆษณาจะทำอย่างไร ก็มีคำแนะนำไว้แบบนี้ครับ
– ต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเฉพาะเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ยังไม่ค่อยมีใครทำ เช่น บ้าน/คอนโด ยานยนต์ ซึ่งยังมีคนรู้จริงทำเนื้อหาน้อยมาก ในกรณีที่เป็นเรื่องทั่วๆไปเช่น IT หรือ เครื่องสำอางค์ ต้องมีเจาะลงลึกมากๆ หรือมีการนำเสนอที่ “เห็นแล้วต้องแชร์”
– เลือกประเภทของเว็บไซต์ของตัวเองให้ชัดเจน จะเป็น web content (blog, review) หรือเป็นเว็บให้บริการต่างๆ (ดูดวง) หรือเป็น Community (เว็บบอร์ดพูดคุยต่างๆ) เพราะลักษณะในการหารายได้ก็จะแตกต่างกันไป เช่น web content การทำ advertorial อาจจะเหมาะสมกว่า ในขณะเดียวกัน Community นั้นทางโฆษณาอาจจะขอทำ online campaign เฉพาะกลุ่มได้
ในส่วนประเด็นอื่นๆที่ได้มีการพูดคุยกันเก็บมาฝากเป็นประเด็นสั้นๆได้ประมาณนี้ครับ
– network banner มีข้อได้เปรียบมากกว่า banner ขายตรง โดยเฉพาะ technology ในการเก็บพฤติกรรมของผู้ใช้งานซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่นักโฆษณาต้องการ แต่การจะเข้าไปอยู่ใน network banner เว็บไซต์ก็ต้องมีคุณภาพในระดับหนึ่ง
– เว็บไซต์ที่มี traffic สม่ำเสมอในระดับหนึ่ง ติดตั้ง Google Adsense ก็ถือเป็น solution ที่ดี ข้อที่ต้องระวังก็น่าจะเป็นเรื่องของ SEO เว็บไซต์
– banner position ในหน้าเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญ ทำอย่างไรให้ขวางสายตา โดยไม่ก่อความรำคาญจนเกินไป
– อย่าลืมเผื่อการแสดงผลใน mobile ด้วยเช่นกัน ทั้งขนาด (320 x 250) และแบนวิธที่ต้องใช้ (ขนาดไฟล์ที่จะถูกโหลด)
– Video blog บน youtube เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้
– เชื่อหรือไม่การที่เนื้อหาเราไปอยู่บน Google Plus ช่วยในเรื่อง SEO ได้
และท้ายสุดจริงๆที่ได้มีการพูดคุยกันก็คือ เนื้อหาสำคัญกว่า traffic เสมอ ซึ่งจรรยาบรรณ และความเป็นตัวของตัวเองในการสร้างเนื้อหาเป็นสิ่งที่สำคัญมากของการทำเว็บไซต์ในปัจจุบัน
ขอขอบคุณกูรูรับเชิญในงานครับ
คุณป้อม – ศิวัตร เชาวรียวงศ์ จาก mInteraction และ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย)
คุณจิ๊บ – สุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล Strategic Planning Director บริษัท BrandBaker
คุณบอย – อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ จาก Pantip.com และ นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย
Khajochi – คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ Macthai.com และบล็อกเกอร์ Khajochi.com
แล้วก็ต้องขอบคุณสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ที่ได้จัดงานเจ๋งๆแบบนี้มาเรื่อยๆครับ
*** เพิ่มเติมเทปบันทึกงานสัมมนาครับผม