Digital Matter 4 at Launchpad

ออกนอกกรอบงานประจำไปเพิ่มอาหารสมองกับงาน Digital Matter 4 : Content Marketing ที่จัดโดย thumbup มาเมื่อวันก่อนครับ ประทับใจทุกอย่างเลย เปิดโลกมาก เก็บประเด็นมาได้พอสมควรก็เลยเอามาบันทึกไว้ก่อนที่จะลืมไปในไม่ช้า (ณ จุดนี้ก็เริ่มจะลืมๆไปแล้ว)

งานสัมมนาจัดที่ Launchpad ครับ . ถ้าจำกันได้เคยเขียนเกี่ยวกับ Co-working Space ที่ Launchpad นี่ก็เป็น Co-working Space แห่งหนึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพบนสาธรครับ สถานที่น่าเข้ามานั่งทำงานมากๆเลยครับ เทียบกับราคาแล้ว ผมว่าแทนที่จะไปซื้อกาแฟแล้วนั่งแช่ มาที่นี่ดีกว่าครับ โต๊ะ เก้าอี้ แล้วก็ facility ต่างๆ อีกอย่างหนึ่งคือ ได้เจอผู้คนที่เป็น professional ในหลายๆด้าน .. (แต่ถ้าจะสร้าง connection ก็ต้องพึ่งความสามารถส่วนบุคคลนะครับ) highly recommended เลยครับ

กลับมาที่งาน ทางเจ้าภาพเริ่มต้นด้วยการสรุปข่าวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ Digital Marketing ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งสรุปได้คร่าวๆว่า แนวโน้มการขยายตัวของ digital marketing ปริมาณผู้ใช้งาน และกลุ่มเป้าหมายในสื่อ social media มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มูลค่าเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นตามกันไป แต่ด้วยความหลากหลายของผู้บริโภค หรือผู้รับสื่อนั้นๆ กลับมีความหลากหลาย ทำให้กลยุทธทางการตลาดต้องมีการปรับตัวให้สามารถเข้าไปกับได้กับ life style และความต้องการที่ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของกลุ่มเป้าหมายพิสูจน์ได้จากตัวเลขการเข้าใช้งานเว็บไซต์ youtube ในช่วงถัดมา ซึ่งคุณต่อ จาก บ. Predictive (ผู้เชี่ยวชาญแผนกลยุทธ และการใช้งาน web analytics) ได้นำเสนอข้อมูลแนวโน้มซึ่งได้ตัวเลขสถิติจาก Comscore สรุปได้คร่าวดังนี้ครับ

    • การบริโภคสื่อวีดีโอ ถือเป็นเรื่องปรกติแล้วในปัจจุบัน

 

    • รูปแบบการแชร์ content ยอดฮิต อยู่ในรูปแบบของ short clip

 

    • ผู้บริโภคเข้าถึง content ผ่าน search engine ไม่ได้เข้ามาผ่านหน้า homepage

 

    • เว็บไซต์ที่ให้บริการบล็อคออนไลน์มีการใช้งานลดลง (อาจจะเป็นเพราะ blogger นิยมออกมาทำเว็บไซต์เองแทนที่จะใช้บริการจากเว็บอื่นๆในรูปแบบ yourname.blogger.com หรือใช้ FB G+ แทน)

 

    • ฟังก์ชั่นที่เปิดให้แสดงความคิดเห็นมีการใช้งานเพิ่มขึ้น 21%

 

    • กลยุทธด้านเนื้อหามีการปรับให้กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย

 

    • EDM ยังคงเป็นสื่อ CRM ที่มีประสิทธิภาพ .. ภายใต้กระบวนการ personalize target

 

  • ใช้ข้อมูลทางการตลาดเป็นหลัก เพื่อที่จะ personalize target แทนที่จะสื่อแบบ mass

 

แล้วมาต่อด้วยการนำเสนอในเรื่องของการทำ Content marketing optimization โดยผู้บรรยายจาก บ. Syndacast หลักการของการ optimize content ที่ดีคือต้องเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวกลุ่มเป้าหมาย และเป็นเรื่องที่เค้าอยากจะ share หรือบอกต่อ ซึ่งโดยลักษณะทั่วๆไปมักเป็นเรื่องราวที่ feel good และสามารถตอบคำถาม 5w2h (what when where why who how how much) ต่างๆได้ โดยความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเรื่องราวนั้นๆ ต้องเป็นความรู้สึกที่เกี่ยวโยงเข้ากับ brand ที่ต้องการจะสื่อ จัดอยู่ในกลุ่มของ inderect influence

การทำ Content Marketing สามารถแบ่ง story ออกเป็นส่วน On site และ Off site SEO engine ยุคใหม่มีความฉลาดมาขึ้น และไม่สามารถใช้เฉพาะ Keywords ได้เหมือนก่อน content ที่ไม่มีคุณค่าจะไม่ถูก rank โดย search engine เหมือนรูปแบบที่เคยใช้ เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำ Content Marketing คือเนื้อหาในเว็บไซต์ และ เนื้อหาใน blogs ต่างๆ (On site content) โดยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านเครื่องมือทาง social media ต่างๆ (Off site content) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ content นั้นๆจะต้องเป็นเนื้อหาที่ สด ใหม่ และเป็นต้นฉบับ

ช่วงสุดท้ายเป็นช่วงไฮโลท์ของงานครับ เป็น case studies โดยพูดคุยกับเจ้าของ campaign ผงหอมศรีจันทร์ (featuring กับ ออกพญาหงส์ทอง และแม่บ้านมีหนวด) และทีมงานเสื้อร้องไห้ เจ้าของผลงานคลิป viral ประวัติศาสตร์การเต้นของเมืองไทย ซึ่ง content ทั้งสองเป็นตัวอย่างของการทำ content marketing ที่ดี โดยจากประสบการณ์ของคนทำคอนเท้น สรุปคร่าวๆว่า ในอนาคตการทำการตลาดออนไลน์จะกลายเป็นเรื่องที่ต้องทำ ถึงแม้ว่าข้อเสียของมันคือไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ทางด้านธุรกิจได้ แต่จะช่วยสนับสนุนภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของตัวแบรนด์เองนั้น แบรนด์ที่ดีต้องมีความชัดเจนในคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง เหมือนเป็นคนๆนึง ที่สามารถปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้ ส่วนนี้เองเป็นเรื่องที่จะต้องทำแต่เนิ่นๆ ต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าของแบรนด์และ agency ตั้งแต่กระบวนการจัดตั้งนโยบาย และเลือกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถนำมาใช้กับแบรนด์ที่คิดว่าตัวเองตายไปแล้ว ให้สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้ด้วย story ที่ดี (ผงหอมศรีจันทร์ก็เป็นตัวอย่างนึง)

สำหรับ slide และบทสรุปที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญอื่นๆสามารถอ่านได้จากเว็บไซต์เจ้าของงานที่นี่เลยครับ สรุป Digital Matter 4 and Slide

ขอบคุณทางเว็บไซต์ thumbsup ที่จัดงานเจ๋งๆแบบนี้ขึ้นมาครับ